สินค้า OEM คืออะไร? เจาะลึกความหมายและประโยชน์ที่คุณควรรู้

หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่กำลังวางแผนเริ่มต้นทำธุรกิจ แต่ยังมืดแปดด้านไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน วุ่นวายใจว่าจะขายสินค้าประเภทใด กลัวปัญหาคู่แข่งเพียบ กลัวสินค้าซ้ำใคร แต่ถ้าต้องลุยเดี่ยวสร้างโรงงานผลิตเอง ก็ใช้ต้นทุนสูง และมีความเสี่ยงมหาศาล...ใช่สิ่งที่คุณกำลังกังวลอยู่หรือเปล่า? เราอยากบอกคุณว่า ธุรกิจ OEM นี่แหละคำตอบที่ใช่! มันคือตัวเลือกในการผลิตสินค้าที่น่าสนใจที่สุด ช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้คุณได้อย่างตรงจุด ให้คุณมีแบรนด์เป็นของตัวเองได้ โดยไม่ต้องลงทุนสร้างโรงงานเอง ลองมาทำความรู้จักกับสินค้า OEM กันเถอะ พร้อมแล้วไปลุยกัน!

สินค้า OEM คืออะไร เป็นสินค้าประเภทไหน? มาทำความรู้จักกัน

สินค้า OEM คือสินค้าที่ผู้ประกอบการหรือเจ้าของแบรนด์ ว่าจ้างให้โรงงาน OEM ผลิตสินค้าให้ตามแบบ สูตร และคุณสมบัติที่ต้องการ แล้วนำมาติดแบรนด์ของตัวเอง นั่นเอง! สินค้า OEM ในท้องตลาดมีให้เลือกมากมาย ที่เราเห็นกันจนชินตา ไม่ว่าจะเป็น ครีมบำรุงผิวตามช็อปออนไลน์ เครื่องสำอาง เสื้อผ้าแบรนด์ดังตามห้าง อาหารเสริม อาหารกึ่งสำเร็จรูป เครื่องดื่ม กาแฟ ชา ของใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ ซึ่งผลิตภัณฑ์ OEM เหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องผลิตมาติดแบรนด์ขายเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถผลิตมาเพื่อเป็นสินค้าสำหรับแจก เป็นของขวัญ ของชำร่วย รางวัลให้ลูกค้าในแคมเปญการตลาดได้ด้วย เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์หรือองค์กรนั่นเอง

โรงงาน OEM คืออะไร บทบาท หน้าที่ของโรงงาน OEM เป็นอย่างไร

โรงงาน OEM หรือ Original Equipment Manufacturer เป็นโรงงานรับจ้างผลิต OEM ที่ให้บริการผลิตสินค้าและชิ้นส่วนต่างๆ ตามคำสั่ง ตามแบบ และสูตรที่ลูกค้ากำหนด โรงงาน OEM จะต้องมีเครื่องจักร อุปกรณ์การผลิตที่ได้มาตรฐาน รวมถึงมีบุคลากรมืออาชีพที่มีความชำนาญในสายงานการผลิตเป็นอย่างดี โรงงานผู้รับผลิตจะเป็นผู้ควบคุมดูแลและจัดการกระบวนการผลิตทั้งหมด ตั้งแต่ต้นจนจบ ทุกขั้นตอนอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพสูงสุด ตรงตามความต้องการของลูกค้าทุกประการ

ขั้นตอนการสั่งผลิตสินค้า OEM กับโรงงาน OEM เป็นอย่างไร

ถ้าอยากได้ผลิตภัณฑ์ OEM สักชิ้นมาเป็นของตัวเอง ขั้นตอนการสั่งผลิตก็ไม่ยุ่งยาก เริ่มจากการแจ้งความต้องการว่าจะผลิตสินค้าอะไร ชนิดไหน เลือกสูตรหรือแบบที่ต้องการ จากนั้นเซ็นสัญญาจ้างผลิต โดยตกลงเรื่องจำนวน ราคา การวางมัดจำ โรงงานจะผลิตสินค้าตัวอย่างให้ทดสอบก่อนสั่งผลิตจริง หากไม่พอใจตรงไหนก็สามารถแจ้งแก้ไขได้ จากนั้นยื่นขอการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากผ่านแล้วก็สามารถสั่งผลิตได้เลย พร้อมนี้ก็ออกแบบแพ็คเกจจิ้งและฉลากสินค้าไปด้วย รอรับสินค้าที่ผลิตเสร็จแล้วได้เลย หลายโรงงานมีบริการส่งให้ถึงที่ โดยไม่ต้องเดินทางไปรับเองที่โรง

ขั้นตอนแรกติดต่อโรงงาน แจ้งความต้องการผลิตสินค้า

ก้าวแรกของการสั่งผลิตสินค้า OEM คือการแจ้งความประสงค์กับทางโรงงานว่าต้องการผลิตสินค้าประเภทใด เช่น อยากสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ครีม เครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ควรแจ้งรายละเอียดต่างๆ ให้ชัดเจน เพื่อที่โรงงานจะได้ออกแบบสูตร หรือให้คำแนะนำได้อย่างถูกต้องแม่นยำ

• ขั้นตอนต่อมาเลือกสูตรหรือแบบสินค้าที่ต้องการผลิตกับทางโรงงาน
• วิธีการเลือกสูตรหรือแบบสินค้าที่ต้องการ เจ้าของแบรนด์สามารถทำได้หลายแบบ ดังนี้
• เลือกสูตรมาตรฐานที่โรงงานมี ซึ่งผ่านการทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยแล้ว สามารถนำไปใช้ได้เลย
• ใช้สูตรเฉพาะของแบรนด์ตัวเอง ที่จ้างนักวิจัยคิดค้น และให้โรงงานช่วยปรับแต่งให้สมบูรณ์แบบ
• ให้โรงงานช่วยแกะสูตรจากสินค้าต้นแบบที่เรามี แล้วปรับสูตรใหม่ให้เข้ากับแบรนด์ของเรา
• ให้โรงงานคิดค้นและพัฒนาสูตรใหม่เอี่ยมให้ เพื่อสร้างความโดดเด่นเฉพาะตัว
• จากนั้นทำสัญญาว่าจ้างผลิตสินค้า OEM กับโรงงาน

เมื่อได้สูตรและแบบสินค้าที่ถูกใจแล้ว ก็ถึงคราวจับมือเซ็นสัญญาจ้างผลิตกับทางโรงงาน อย่าลืมอ่านสัญญาอย่างรอบคอบ โดยเฉพาะในส่วนของจำนวนการผลิต ส่วนผสมหลักๆ งวดการผลิต และการจ่ายเงิน เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ส่วนใหญ่โรงงานมักเรียกเก็บเงินมัดจำประมาณ 50 % ในวันทำสัญญา

ทดสอบตัวอย่างสินค้า OEM ที่ได้รับจากโรงงาน

โรงงาน OEM ที่ดีต้องยินดีผลิตสินค้าตัวอย่างให้เจ้าของแบรนด์ทดสอบก่อน ก่อนที่จะมีการสั่งผลิตจริง เจ้าของแบรนด์ควรทดสอบดูคุณภาพของสินค้าตัวอย่างให้ถี่ถ้วน ทั้งรูปลักษณ์ภายนอก กลิ่น สี รสชาติ เนื้อสัมผัส ฯลฯ หากยังไม่พอใจ หรือไม่ตรงตามที่คาดหวังก็สามารถแจ้งแก้ไขกับทางโรงงานได้ทันที ซึ่งโดยมากโรงงานจะยินดีปรับปรุงแก้ไขให้โดยไม่คิดเงิน ภายในจำนวนรอบที่ตกลงกันไว้

ยื่นขอรับรองกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อการันตีคุณภาพสินค้า

ผลิตภัณฑ์หลายประเภท อาทิ อาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง และยา จำเป็นต้องยื่นขอการรับรองคุณภาพและมาตรฐานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น อย. เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ว่าสินค้าเหล่านี้มีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพจริงตามที่กล่าวอ้าง ขั้นตอนนี้ควรดำเนินการหลังจากที่ได้รับการทดสอบ และปรับสูตรสินค้าให้สมบูรณ์แล้ว

ออกแบบแพ็คเกจจิ้งสินค้า OEM ให้สวยงาม โดดเด่น น่าใช้

ในระหว่างที่รอใบรับรองจากหน่วยงานต่างๆ ก็เริ่มออกแบบ Packaging Design กันได้เลย ทั้งดีไซน์กล่อง ขวด ซอง ติดป้ายฉลากสินค้า ให้ออกมาสวยงาม โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว บางโรงงานมีบริการให้คำปรึกษาออกแบบ Packaging แบบครบ CopyClaude’s response was limited as it hit the maximum length allowed at this time.SMต่อวงจร ซึ่งสะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องวุ่นวายไปติดต่อหลายที่ ช่วยประหยัดทั้งเวลาและงบประมาณได้มากทีเดียว

สั่งผลิตสินค้า OEM กับโรงงาน รอรับสินค้าถึงมือ

เมื่อทุกอย่างพร้อมสรรพแล้ว ก็ถึงเวลาสั่งผลิตสินค้ากับทางโรงงานได้เลย ตามจำนวนที่ต้องการ โรงงานจะจัดส่งสินค้าที่ผลิตเสร็จแล้วไปให้ถึงมือผู้รับอย่างปลอดภัย ไม่ต้องเหนื่อยเดินทางไปรับเองถึงโรงงาน ส่วนใหญ่โรงงาน OEM มาตรฐานสูงมักมีบริการขนส่งฟรีทั่วประเทศ หากสั่งผลิตตามจำนวนขั้นต่ำที่กำหนด และหากสินค้าเกิดเสียหายระหว่างการขนส่ง ก็ยังมีการรับประกันอีกด้วย

ข้อดีของการจ้างผลิตสินค้า OEM กับโรงงาน

การจ้างผลิตสินค้า OEM กับโรงงานนั้นมีข้อดีมากมาย สำหรับผู้ที่อยากสร้างแบรนด์ของตัวเองดังนี้

• ไม่ต้องลงทุนสร้างโรงงานเอง ประหยัดต้นทุนไปได้เยอะ เพราะไม่ต้องซื้อเครื่องจักร อุปกรณ์ หรือจ้างแรงงานในการผลิต
• สามารถสั่งผลิตจำนวนน้อยๆ ได้ เพื่อเป็นการทดลองตลาดก่อน ป้องกันความเสี่ยงที่สินค้าอาจขายไม่ดี เหลือค้างสต็อก
• ลดขั้นตอนการบริหารจัดการต่างๆ ลง เพราะไม่ต้องคอยควบคุมดูแลการผลิตเอง แถมยังมีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา
• ย้ายฐานการผลิตได้ทุกเมื่อ เนื่องจากไม่ได้ลงทุนสร้างโรงงานเป็นของตัวเอง มีความยืดหยุ่นในการบริหารต้นทุน
• ปรับกลยุทธ์การตลาดได้อย่างคล่องตัว เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น
• โรงงานส่วนใหญ่มีบริการอื่นๆ ที่ครอบคลุม เช่น ช่วยเรื่องใบอนุญาตต่างๆ ออกแบบโลโก้และแพ็คเกจจิ้ง
• โรงงานมีความชำนาญและประสบการณ์ในการผลิตสินค้า ทำให้มั่นใจได้ในมาตรฐานและคุณภาพของสินค้า

ข้อจำกัดของการจ้างโรงงาน OEM ที่ต้องพิจารณา

อย่างไรก็ตาม การใช้บริการโรงงาน OEM ก็มีข้อจำกัดบางประการที่เจ้าของแบรนด์ควรนำมาพิจารณา ก่อนตัดสินใจเลือกจ้างผลิต ดังนี้

• โรงงานไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทุกประเภท มีเพียงสินค้าที่ใช้เครื่องจักรทั่วไปเท่านั้น ที่โรงงานสามารถผลิตได้
• หากใช้สูตรมาตรฐานของทางโรงงาน สินค้าอาจมีความคล้ายคลึงกับแบรนด์อื่นที่ใช้สูตรเดียวกัน ขาดความโดดเด่น
• ควบคุมคุณภาพและมาตรฐานการผลิตได้ยากกว่าการผลิตเอง หากเลือกผู้ผลิตที่ไม่น่าเชื่อถือ อาจได้สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน
• มีความเสี่ยงที่จะถูกโรงงานนำสูตรหรือแบบสินค้าของเราไปลอกเลียน หรือนำไปผลิตขายให้ผู้อื่น หากเป็นสูตรเฉพาะที่คิดค้นมาเอง

หากพิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อดีของการใช้บริการโรงงาน OEM มีมากกว่าข้อจำกัด การจ้างผลิตก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับผู้ที่อยากเป็นเจ้าของแบรนด์ในตลาด OEM ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง หากคุณกำลังมองหาโรงงาน OEM ที่มีคุณภาพ น่าเชื่อถือ และไว้วางใจได้ iBio พร้อมเป็นผู้ช่วยมืออาชีพให้กับคุณ เราเป็นโรงงานผู้ผลิต OEM เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ยา และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ด้วยความเชี่ยวชาญ รวมถึงการบริการแบบครบวงจร พร้อมทีมงานมืออาชีพ เราพร้อมดูแลทุกขั้นตอนการผลิต เพื่อส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพสูงสุดให้กับคุณอย่างแน่นอน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสินค้าและการผลิตแบบ OEM

โรงงาน OEM ต่างจากโรงงาน ODM อย่างไร

โรงงาน OEM รับผลิตสินค้าตามแบบและสูตรที่ลูกค้าร้องขอ ส่วนโรงงาน ODM มีบริการพัฒนาสูตรและออกแบบสินค้าให้ลูกค้าใหม่ทั้งหมด ตามความต้องการของตลาด ทำให้ได้สินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่มีต้นทุนสูงกว่าแบบ OEM

โรงงาน OEM รับผลิตสินค้าประเภทใดได้บ้าง

โรงงาน OEM ส่วนใหญ่รับผลิตสินค้าอุปโภค บริโภคประเภทต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น

• อาหารและเครื่องดื่ม เช่น อาหารเสริม อาหารกึ่งสำเร็จรูป กาแฟ ชา
• เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เช่น ครีมบำรุงหน้า ครีมกันแดด โฟมล้างหน้า แชมพู น้ำหอม
• ยาและผลิตภัณฑ์สมุนไพร เช่น ยาธาตุ ยาหม่อง น้ำมันนวดตัว
• เครื่องแต่งกาย เช่น เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า

OEM ผลิตสินค้าให้ได้จำนวนเท่าไหร่

ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้าและจำนวนขั้นต่ำของแต่ละโรงงาน โดยทั่วไปมักเริ่มต้นที่หลักหมื่นบาทขึ้นไป สำหรับโรงงานที่ให้บริการครบวงจร ตั้งแต่คิดสูตร ทดสอบ ผลิต แพ็ค ส่ง ก็จะต้องมีงบประมาณมากขึ้น เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพตรงตามความต้องการ

ทำไมต้องเลือกจ้าง OEM ผลิตสินค้า

เหตุผลในการเลือกจ้างโรงงาน OEM ผลิตสินค้า เพราะช่วยลดต้นทุน เพิ่มความรวดเร็วในการนำสินค้าออกสู่ตลาด สามารถสั่งผลิตจำนวนน้อยเพื่อทดลองตลาดได้ก่อน มีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนแผนการ ได้สินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐานสูงเทียบเท่าสินค้าแบรนด์ดัง ลดความยุ่งยากในการบริหารจัดการ และได้รับการดูแลจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญ